ในหัวข้อที่แล้วได้พูดถึงสาเหตุที่ทำให้แพ้เกิดจากสารฮีสตามีน
(
Histamine
)
ที่ร่างกายผลิตออกมาและเป็นตัวทำให้ร่างกายแสดงอาการแพ้ออกมาให้เห็น ตัวอย่างเช่น เกิดตุ่มคันตามตัว หรืออาจเป็นลมพิษ เป็นต้น
วิธีแก้ที่ตรงปัญหา
ในเมื่อเรารู้ว่าสารฮีสตามีน(
Histamine
)เป็นตัวปัญหา
และถ้าเราสามารถยับยั้งไม่ให้ร่างกายผลิตสารฮีสตามีนออกมา อาการแพ้ก็จะไม่ปรากฏ หรือตุ่มคันตามตัวที่เคยมีก็จะหายไป
โรคภูมิแพ้กับเห็ดหลินจือเกี่ยวข้องกันอย่างไร
คำตอบก็คือเมื่อนักวิทยาศาสตร์เปิดเผยผลการตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีพบว่าเห็ดหลินจือมีสารสำคัญทางยาช่วยยับยั้งไม่ให้ร่างกายผลิตสาร
ฮีสตามีน
(
Histamine
)
ออกมา และสารดังกล่าวคือ
1. กลุ่มสารโพลิแซ็กคาไรด์
(
Polysaccharides
)ออกฤทธิ์รวมกัน
ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิด บี-เซลล์ (B-cells)
และทีเซลล์ (T-cells)
ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นอย่างมากของ
สารอิมมูโนโกลบูลิน (
lmmunoglobulin
)
และ
สารอินเตอร์ลิวคิน
(Interleukins)
ซึ่งเป็นตัวต่อต้านสารที่ทำให้แพ้
(
Antiallergy
)
2. กลุ่มสารไตรเทอร์ปินนอยด์ชนิดขม(
Bitter Triterpenoids
)
มีอยู่
ประมาณ 100 ชนิดที่แตกต่างกัน
และสารที่มีส่วนรักษาผู้ป่วยโรคภูมิแพ้คือ กลุ่มสารกรดกาโน
เดอริค (
Ganoderic acid A, B, C1, C2, D-K, R-Z
)
และ
กรดลูซิเดนิค
(
Lucidenic acid
)
จะทำหน้าที่เป็นตัวยับยั้งไม่ให้ร่างกาย ผลิตสารฮีสตามีนออกมา
(HistamineRelease
inhibition activity)
รวมถึงกรดไขมันชนิดโอเลอิค(Oleic
acid
)และสาร
ไซโคลอ็อกต้าซัลเฟอร์ (
Cyclooctasulfur
)
ซึ่งก็มีฤทธิ์ต้านไม่ให้ร่างกายผลิตสารฮีสตามีนออกมาเช่นกัน
สรุปสารฮีสตามีน
(
Histamine
)
เป็นตัวปัญหา และถ้าเราสามารถยับยั้งไม่ให้ร่างกายผลิตสารฮีสตามีน
(
Histamine
)
ออกมา อาการแพ้ก็จะไม่ปรากฏ หรือตุ่มคันตามตัวที่เคยมีก็จะหายไป
เพราะฉะนั้นการใช้เห็ดหลินจือในผู้ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้
ก็คงเป็นเรื่องที่ทำได้เพราะเป็นการใช้ยาที่มีหลักการรองรับไว้
60
|